Author: Isaac Hopkins

Home / Author: Isaac Hopkins

ชุดนักเรียนไทย

เราทุกคนก็จะเคยผ่านการเรียนหนังสือในระบบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งจะต้องมีการสวมใส่ชุดนักเรียนที่เป็นเครื่องแบบที่สำคัญที่ระบุว่าเราเป็นเยาวชนวัยเรียน ซึ่งรูปแบบของชุดนักเรียนนั้นเป็น รูปแบบการแต่งกายของผู้เข้าศึกษาในระดับอนุบาล ประถมศึกษา และมัธยมศึกษา ในสถานศึกษาที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติเครื่องแบบนักเรียน พ.ศ. 2551 ประกอบกับระเบียบปฏิบัติของโรงเรียนต่าง ๆ เอง แม้ว่าโรงเรียนต่างๆ จะมีการกำหนดสีของเครื่องแบบแตกต่างกันออกไป แต่โดยทั่วไปแล้วจะต้องมีมาตรฐานที่กำหนดไว้ ดังนี้ 

นักเรียนชาย

  1. เสื้อ เป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวคอตั้ง ไม่มีสาบหลัง มีกระเป๋าเสื้อที่หน้าอกด้านซ้าย ปักอักษรย่อหรือสัญลักษณ์ของโรงเรียนที่หน้าอกซ้ายและชื่อหรือตัวเลขประจำตัวนักเรียนที่หน้าอกขวา ซึ่งใช้ด้ายสีน้ำเงินหรือสีแดงในการปัก
  2. กางเกงและเข็มขัด มี 3 แบบ คือ กางเกงขาสั้นสีกากี คู่กับเข็มขัดหนังสีน้ำตาล กางเกงขาสั้นสีดำคู่กับเข็มขัดหนังสีดำหรือน้ำตาล สีน้ำเงินคู่กับเข็มขัดสีดำหรือสีน้ำตาล ในปัจจุบัน โรงเรียนที่ใช้กางเกงนักเรียนสีกากีส่วนใหญ่อยู่นอกพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร โรงเรียนรัฐบาลมักให้ใส่กางเกงนักเรียนสีดำ และโรงเรียนเอกชนจะใช้กางเกงนักเรียนสีน้ำเงิน
  3. รองเท้าและถุงเท้า มี 2 แบบ คือ กางเกงขาสั้นสีกากีจะใช้รองเท้าและถุงเท้าสีน้ำตาล อีกแบบคือกางเกงขาสั้นดำและน้ำเงินจะใช้ถุงเท้าสีขาว คู่กับรองเท้าผ้าหรือหนังสีดำ โดยสรุปแล้ว นักเรียนต้องสวมเสื้อนักเรียนและกางเกงนักเรียนที่สั้นที่สุดเท่าที่ตนเองมี บางแห่งอาจมีการกำหนดความยาวด้วย

นักเรียนหญิง

  1. เสื้อ มีรายละเอียดดังนี้ 
  • นักเรียนชั้นประถมศึกษา ใช้เสื้อคอปกบัวสีขาว เนื้อผ้าแบบเสื้อนักเรียนชาย ที่แขนไม่มีจีบ ปล่อยชายเสื้อ เช่นเดียวกันกับนักเรียนโรงเรียนสาธิต
  • นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ใช้เสื้อคอปกกะลาสี สีขาว เนื้อผ้าแบบเสื้อนักเรียนชาย ที่แขนมีจีบและกระดุม ผูกโบสีกรมท่าใต้ปกเสื้อ ปล่อยชายเสื้อ ความยาวของกระโปรงเหนือเข่าไม่เกิน 5 ซม.
  • นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ใช้เสื้อเชิ้ตปกแหลม สีขาว ที่แขนมีจีบและกระดุม สอดชายเสื้อไว้ในกระโปรง คาดทับด้วยเข็มขัดหนังสีดำ ความยาวของกระโปรงเหนือเข่าไม่เกิน 5 ซม.
  1. กระโปรง ในโรงเรียนรัฐบาลจะใช้กระโปรงสีกรมท่าหรือสีดำ มีจีบด้านหน้า 6 จีบ และด้านหลัง 6 จีบ จีบหันออกด้านนอก ความยาวไม่สั้นเหนือลูกสะบ้า คู่กับเข็มขัดหนังสีดำ
  2. รองเท้าและถุงเท้า รองเท้าหนังสีดำ ถุงเท้าสีขาว ส่วนความยาวของถุงเท้าก็เป็นไปตามที่สถานศึกษานั้นๆ กำหนด

ใกล้ถึงวันเปิดเทอม น้องๆ ก็มีกจะตื่นเต้นกับการเลือกซื้อชุดนักเรียนเป็นอย่างมาก แต่ให้ไปเบียดเสียดเลือกซื้อก็คงไม่ไหว จะดีกว่าไหม ถ้าหากคุณสามารถเลือกซื้อชดนักเรียนง่ายๆ ผ่าน LAZADA ขอแค่รู้ไซส์ ก็รอรับชุดนักเรียนที่บ้านไม่ต้องเดินทางไปซื้อเลย 

ประกันภัยรถยนต์ 2+

เพราะความคุ้มครองที่คุณจะได้จากรูปแบบประกันภัยรถยนต์ 2+ นั้นมีความหลากหลายเมื่อเทียบกับราคาเบี้ยประกันที่คุณจะต้องจ่ายในแต่ละปีนับว่าเป็นรูปแบบประกันภัยรถยนต์ที่คุ้มค่าและน่าลองซื้อเข้ามาเสริมสร้างความคุ้มครองเป็นเกราะป้องกันในการขับขี่ให้กับผู้เอาประกันเป็นอย่างดีแต่ถ้าใครที่ยังลังเลไม่มั่นใจว่าจะเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ 2+ ดีหรือไม่แน่นอนว่าคุณสามารถเข้าไปทำความรู้จักกับรูปแบบประกันภัยรถยนต์ 2+ ก่อนได้เพื่อเพิ่มความมั่นใจและสร้างความเชื่อมั่นให้กับตัวเองว่าหากคุณเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ 2+ นี้แล้วจะทำให้คุณไม่ต้องเป็นกังวลในเรื่องการขับขี่บนท้องถนนของตัวคุณเองเอาเป็นว่าถ้าใครกำลังลังเลว่าจะตัดสินใจเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ 2+ ดีหรือไม่ลองเข้ามาทำความรู้จักกับรูปแบบประกันภัยรถยนต์นี้ไปพร้อมกับเรากันได้เลย

ทำความรู้จักกับรูปแบบประกันภัยรถยนต์ 2+

ก่อนอื่นเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าประกันภัยรถยนต์ออนไลน์หรือประกันภัยรถยนต์ในปัจจุบันนี้มีหลากหลายรูปแบบให้คุณได้เลือกซื้อซึ่งแต่ละรูปแบบของประกันภัยก็มีความแตกต่างกันออกไปแล้วแต่ความต้องการของผู้เอาประกันเองว่าอยากได้ความคุ้มครองแบบไหนความคุ้มครองแบบไหนที่จะตรงกับความต้องการของผู้เอาประกันมากที่สุดซึ่งวันนี้รูปแบบประกันภัยรถยนต์ 2+ ที่เราจะแนะนำให้คุณได้ลองเข้ามาเลือกซื้อความคุ้มครองนี้เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องเป็นกังวลในอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ไม่คาดฝันบนท้องถนนเพราะต้องยอมรับว่าปัจจุบันนี้อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบนท้องถนนนั้นทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมากดังนั้นการเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ 2+ ติดไว้ก็จะช่วยทำให้คุณไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงเพียงตัวคนเดียวจะมีบริษัทประกันเข้าไปให้ความดูแลและช่วยเหลือในทุกๆเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดความเสียหายสำหรับผู้เอาประกัน

ด้วยความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์ 2+ นั้นให้ความคุ้มครองในชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกตลอดจนความเสียหายของรถยนต์ผู้เอาประกันที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนความเสียหายที่เกิดจากภัยพิบัติทางธรรมชาติรถยนต์ไฟไหม้หรือรถถูกขโมยก็ยังได้รับความคุ้มครองเช่นเดียวกันดังนั้นถ้าคุณสนใจอยากเพิ่มเกราะป้องกันในการขับขี่บนท้องถนนให้กับตัวคุณเองเลือกซื้อประกันภัยรถยนต์ 2+ ติดไว้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจทางนี้คุณสามารถเข้ามาสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบประกันภัยรถยนต์ 2+ ได้ที่เว็บไซต์รู้ใจเรามีทีมงานที่จะคอยให้คำแนะนำและช่วยคุณเลือกซื้อรูปแบบประกันภัยรถยนต์ที่เหมาะกับความต้องการของคุณตลอดเวลาทำการและพร้อมมอบสิทธิพิเศษอีกมากมาย

ซีรีส์สืบสวนเกาหลี

เอาใจคนชอบชมซีรีส์สืบสวนเกาหลีด้วยการพาส่อง 5 ตัวช่วยดี ๆ เพื่อการรับชมซีรีส์แนวสืบสวนให้ได้อรรถรสยิ่งขึ้น และจะทำให้ฟินกับทุกเนื้อเรื่อง สนุกทุกความเคลื่อนไหว งานนี้บอกได้เลยว่าคอซีรีส์ไม่ควรพลาด

1. รับชมซีรีส์แบบไม่มีสะดุดด้วย tplink

ตัวช่วยเพื่อการชมซีรีส์แบบไม่มีสะดุดที่คอซีรีส์ควรมีติดบ้าน นั่นคือ tplink อุปกรณ์เชื่อมต่อที่ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตเสถียร รวดเร็ว ลองนึกภาพดูว่าหากกำลังรับชมฉากลุ้น ๆ แต่ต้องสะดุดกับสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ช้าหรือขาดการเชื่อมต่อ คงทำให้เสียอารมณ์ไม่น้อย ยกตัวอย่างแบบชัด ๆ หากต้องดูซีรีส์สืบสวนสุดเข้มข้นอย่าง Signal ที่มีเนื้อเรื่องเกี่ยวกับตำรวจที่เก็บวิทยุสื่อสารได้ ทำให้เรื่องราวไขคดีในยุคเก่าสลับกับยุคปัจจุบัน ซึ่งแน่นอนว่าเนื้อเรื่องน่าสนใจและน่าลุ้น และคงจะไม่ดีแน่หากกำลังติดตามฉากตื่นเต้น ๆ แต่กลับพบว่าอินเทอร์เน็ตสะดุด บอกเลยว่าขัดอารมณ์การชมซีรีส์เอามาก ๆ

2. หมอนนุ่ม ๆ ผ้าห่มอุ่น ๆ เพื่อความเพลิดเพลินในการรับชม

เมื่ออินเทอร์เน็ตเร็วและแรงแล้ว อย่าลืมเนรมิตพื้นที่เพื่อการรับชมซีรีส์สืบสวนเกาหลีให้เพลิดเพลินยิ่งขึ้นด้วย เทคนิคสุดประหยัดคือการหามอนนุ่ม ๆ สักใบ ผ้าห่มนิ่ม ๆ สักผืน จากนั้นก็ได้เวลาหาพื้นที่แห่งความสุข เช่น โซฟาห้องรับแขก เตียงนอน หรือบริเวณอื่น ๆ ที่เอื้อต่อการชมซีรีส์แบบไม่มีสะดุด เพียงเท่านี้ก็ได้มุมชิล ๆ เพื่อการชมความบันเทิงอย่างต่อเนื่อง

3. ตื่นตาจุใจกับการรับชมผ่าน ไอแพด

หากไม่จุใจกับการชมซีรีส์ผ่านสมาร์ทโฟน ลองเปลี่ยนมารับชมผ่านไอแพดที่ให้อารมณ์มากกว่า อีกทั้งยังให้ภาพชัดเจนเต็มตา โดยปัจจุบันไอแพดมีให้เลือกหลายสเปค หลายราคา ขึ้นอยู่กับงบประมาณและฟังก์ชันการใช้งานของผู้ซื้อ อีกทั้งยังใช้งานง่าย พกพาไปชมซีรีส์ที่ไหนก็สะดวก เพราะขนาดกะทัดรัดและน้ำหนักเบา และนอกจากการใช้ไอแพดเพื่อความบันเทิงแล้วยังมีประโยชน์ด้านอื่น ๆ โดยเฉพาะประโยชน์ด้านการทำงาน การจดโน้ต เรียกว่าลงทุนครั้งเดียวแต่คุ้มค่าสุด ๆ

4. หูฟังดี ๆ สักอัน เพิ่มช่วงเวลาความเป็นส่วนตัว

ในบางครั้งหากจำเป็นต้องชมซีรีส์สืบสวนเกาหลีในสถานที่ที่ไม่มีความเป็นส่วนตัวเท่าไหร่ ก็อย่าได้กังวลใจ เพราะเรามีตัวช่วยดี ๆ อย่างหูฟัง ที่จะช่วยเสริมบรรยากาศให้ดูเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้น เพราะหากมีใครเห็นว่าเราสวมใส่หูฟังอยู่ อาจทำให้เลี่ยงการสนทนาโดยอัตโนมัติ อีกทั้งการมีหูฟังดี ๆ สักอันยังช่วยให้การรับชมซีรีส์ได้อรรถรสมากขึ้น โดยเฉพาะซีรีส์แนวสืบสวน เนื่องจากทุกเสียงทุกการเคลื่อนไหวอาจนำสู่การไขปริศนา รับรองเลยว่าหากมีหูฟังคุณภาพดีสักอันต้องทำให้ได้อรรถรสในการชมซีรีส์ได้มากอย่างแน่นอน

5. ขนม เครื่องดื่ม เพื่อความบันเทิงเต็มอิ่ม

การรับชมซีรีส์สืบสวนเกาหลีไม่ต่างจากการชมภาพยนตร์โรงภาพยนตร์เท่าไหร่ที่ต้องมีขนมและเครื่องดื่มไว้ข้างกาย เพราะทั้งสองอย่างนี้ช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมเป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นต่อให้ชมซีรีส์ที่บ้านหรือที่ไหน ๆ อาจหาตัวช่วยเพิ่มความบันเทิงอย่างขนมรสชาติโปรดปรานและเครื่องดื่มอร่อย ๆ เพื่อเพิ่มความฟิน แต่มีคำเตือนเล็กน้อยเพราะแม้การรับประทานขนมและเครื่องดื่มจะช่วยให้การชมซีรีส์ฟินยิ่งขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นก็อย่ารับประทานมากเกินไป เพราะอาจส่งผลต่อน้ำหนักตัวได้

และทั้งหมดนี้คือตัวช่วยดี ๆ ที่ทำให้การรับชมซีรีส์สืบสวนเกาหลีสนุกและได้อารมณ์ยิ่งขึ้น และสำหรับใครที่เป็นคอซีรีส์ตัวจริง แต่ชมซีรีส์จนแทบไม่มีเวลาพัก อย่าลืมแบ่งเวลาพักผ่อน เพื่อไม่ให้การชมซีรีส์ส่งผลต่อสุขภาพนั่นเอง

เตรียมตัวพบกับแคมเปญใหญ่ประจำเดือนตุลาคม Shopee 10.10 Brands Festival ขนสินค้าแบรนด์แท้มาลดกระหน่ำกว่า 50% พร้อมแจกโค้ดส่วนลดจัดหนักทุกวัน 500 บาท ใครรอโค้ดอยู่ห้ามพลาด ยัง ยังไม่หมด ยังมีช้อปสินค้ารับเงินคืน 20% coin ไม่มีขั้นต่ำ ส่งฟรีทั่วประเทศ เริ่มต้นวันที่ 21 กันยายน – 11 ตุลาคม 2020 นี้!

Brands Flash Sale พบสินค้ายี่ห้อดัง Shopee Premium สินค้าแฟชั่น เครื่องสำอางแบรนด์ชั้นนำ จัดโปรโมชั่นส่วนลด พร้อมช้อปรับเงินคืนแบบมาราธอนกับ Shopee Cashback Marathon ยิ่งช้อป ยิ่งคุ้ม!

Genius Bar BKK Menu

Genius Bar BKK คาเฟ่สุดชิคสไตล์มินิมอลที่ใครหลายคนคงเคยเห็นแถว Eight Thonglor จริง ๆ แล้วที่นี่ไม่ใช่คาเฟ่ธรรมดา ๆ อย่างที่เข้าใจเลย เพราะเขาไม่มีกาแฟหรือขนมหวานให้เห็นซักเมนู แต่ที่เห็นคนจิบ ๆ แก้วกันอยู่นั้นคือ “น้ำซุป” ต่างหาก อยากจะบอกเลยว่าที่ Genius Bar BKK Menu มีแต่ความเฮลตี้ ความอร่อย คุณประโยชน์ครบถ้วนจุก ๆ ในแก้วเดียวไปเลย กินแล้วได้ฟื้นฟูทั้งจิตใจ ทั้งร่างกายแน่นอน

คุณประโยชน์จะมีอะไรบ้าง ก็ต้องมารู้จักกับน้ำซุปของร้านกันก่อน

1.Bone Broth หรือน้ำซุปต้มกระดูกนั่นเอง ซึ่งการที่จะให้น้ำซุปมีสารอาหารมากมายได้นั้นจะต้องใช้กระดูกจำนวนมากและต้องใช้เวลาต้มที่นาน สำหรับที่ร้าน Genius Bar BKK ใช้เวลา 18 ชั่วโมงในการต้มน้ำซุป เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงเลย สารอาหารในชิ้นกระดูกนั้นซึมออกมาอยู่ในน้ำซุปหมดแล้ว โดยที่ร้านจะมีทั้งน้ำซุปเนื้อและน้ำซุปไก่ให้เลือกทาน น้ำซุปเนื้อจะรสชาติเข้มข้น หอมละมุน ส่วนน้ำซุปไก่จะเบา ดื่มง่าย สดชื่น

ใน Bone Broth กระดูกที่นำมาต้มส่วนใหญ่มักจะเป็นส่วนข้อต่อและกระดูกอ่อนเพราะฉะนั้นน้ำซุปจะอัดแน่นไปด้วยคอลลาเจนที่ช่วยลดการอักเสบของข้อต่อ และฟื้นฟูผิวหนัง พร้อมกรดอะมิโนที่ช่วยฟื้นฟูกล้ามเนื้อและระบบประสาท และอิเล็กโทรไลต์ที่ช่วยปรับความสมดุลแร่ธาตุในร่างกาย แค่ในหนึ่งแก้วเราก็ได้สารอาหารครบขนาดนี้ไม่ซื้อกินบ่อย ๆ ก็ไม่ได้แล้ว

2. Mushroom Elixir Broth เมนูสำหรับผู้ที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ น้ำซุปจากเห็ดนางรม เห็ดปุยฝ้าย เห็ดชิตาเกะ เห็ดถั่งเช่า และเห็ดกระดุม ถูกนำมาต้มกับสมุนไพรจีนหลากหลายชนิด โดยเห็ดจำนวน 5 ชนิดที่นำมาต้มนั้น ส่งตรงมาจากฟาร์มของเจ้าของร้านเองจากวังน้ำเขียว และเป็นการปลูกแบบออร์แกนิคอีกต่างหาก เพียงแค่หนึ่งแก้วก็ได้พลังงานคุณภาพมากยิ่งกว่ากาแฟหลายเท่า แถมมีส่วนผสมของสมุนไพรจีนที่ช่วยฮีลลิ่งได้เยอะ คุ้มในคุ้มบอกเลย

            3. Genius Broth ถ้าเห็นซุปทั้งหมดนี้แล้วยังเลือกไม่ถูก ต้องเลือกเมนูนี้เมนู Genius Broth นี้ได้รวมทั้งสามอย่างไว้ให้ในแก้วเดียวแล้ว คุณประโยชน์สามเท่าไปเลย หอม กลมกล่อม ลงตัว ฟินแน่นอน

น้ำซุปไม่อิ่มท้องใช่มั้ย ที่ Genius Bar BKK Menu อาหารก็มี เฮลตี้ไม่แพ้กัน

สัมผัสความว้าวของคอนเซ็ปต์ Soup-in-a-cup (น้ำซุปในแก้วยกดื่ม) แล้ว มาสัมผัสกับอาหารไทยสไตล์สตรีทฟู้ดที่ไม่ธรรมดากันบ้าง ปกติหากเราไปกินอาหารตามสั่ง ก็จะเจอแต่น้ำมันเยอะ ๆ แถมยังเป็นน้ำมันเก่าอีก ได้ผักน้อย บางทีหมูก็น้อยด้วย เหมือนได้การทานข้าวอย่างเดียว แต่ที่ Genius Bar BKK ไม่ใช่เลย เพราะวัตถุดิบทั้งหมดนอกจากจะออร์แกนิคแล้ว ยังให้สารอาหารมากมายไม่แพ้น้ำซุปต้มกระดูกของร้านอีกด้วย

ยกตัวอย่างไข่ที่นำมาใช้ประกอบอาหารหรือเป็นเครื่องเคียง บอกเลยว่าไม่ใช่ไข่ไก่แบบทั่วไป แต่ร้านเลือกใช้เป็นไข่เป็ดอย่างเดียว เพราะไข่เป็ดมีเปอร์เซ็นต์ไข่แดงที่มากกว่า ทำให้ปริมาณโปรตีนและโอเมก้า 3 มีมากกว่าไข่ไก่ แต่อ้าว! ถ้าไข่แดงมากกว่าก็ต้องมีคอเลสเตอรอลมากกว่าน่ะสิ อยากจะบอกว่าความเชื่อนี้ไม่ได้ถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ไปซะทีเดียว เพราะคอเลสเตอรอลในไข่แดงไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจในคนที่ร่างกายแข็งแรงปกติเลย และไข่แดงช่วยเพิ่มไขมันดี (HDL – High Density Lipoprotein) ให้กับร่างกายได้ด้วย

            ส่วน Genius Bar BKK Menu สุดพิเศษที่อยากแนะนำ คือ ‘Genius Pad Thai’ เมนูประจำชาติไทยที่ดูวัตถุดิบแล้วจีเนียสสมชื่อ เพราะของทุกอย่างที่นำมาใช้ประกอบอาหารมันเปิดมิติใหม่ให้กับวงการผัดไทได้เลย เส้นผัดไทที่ทำจากมันฝรั่ง ไร้แป้ง เหมาะเป็นเมนู Gluten-free ไข่เป็ดสองฟอง เอกซ์ตร้าเวอร์จิ้นโอลีฟออยล์ ไชว์ฟ ถั่วงอก แอปเปิ้ลไซเดอร์วินิการ์ เกลือ เมล็ดแตงโม และเมล็ดฟักทอง แค่วัตถุดิบพวกนี้ก็สงสัยแล้วใช่มั้ยว่าจะออกมารสชาติเป็นยังไง แต่ความอร่อยของผัดไทต้องอยู่ที่น้ำซอสนี่สิ จีเนียสผัดไทซอส จะเป็นยังไงเราขอให้คุณได้ไปลองเองดีกว่า

ใครว่าอาหารเฮลตี้ต้องจืดชืด ไม่อร่อย Genius Bar BKK Menu ต่าง ๆ พิสูจน์แล้วว่าไม่จริงเลย แค่น้ำซุปที่มากด้วยสารอาหารแบบนี้ยังทำให้รสชาติหอมและเข้มข้นได้ เมนูอื่น ๆ ก็ต้องไม่ธรรมดาแน่ ๆ หากคุณอยากเริ่มต้นดูแลตัวเองในตอนนี้ ร้านนี้แหละคือคำตอบที่การันตีสุขภาพได้ เมนูอาหารที่ฟื้นฟูทั้งร่างกายและจิตใจอย่างแท้จริง

E-book

ว่าด้วยเรื่องของการอ่านหนังสือของคนไทยซึ่งปัจจุบันนี้เราพบว่าคนเราห่างจากการอ่านหรือพูดง่ายๆว่าอ่านหนังสือน้อยลงเฉลี่ยปีละ 8 บรรทัดเท่านั้นเองซึ่งถือได้ว่าเป็นสถิติที่น่าตกใจไม่น้อยในขณะที่เมื่อเทียบกับวัฒนธรรมชาวญี่ปุ่นซึ่งรักการอ่านเป็นอย่างมากโดยเฉลี่ยแล้วคนญี่ปุ่นจะอ่านหนังสือเดือนละ 1 เล่มซึ่งเป็นหนังสืออ่านเล่นนอกเวลาแต่เต็มไปด้วยการประเทืองปัญญาและอุตสาหกรรมที่สำคัญในหนังสือแต่ละเล่มนั้นก็ทำ ให้สามารถพัฒนาแนวคิดและวิถีชีวิตของตนเองได้นั่นเองหันกลับมาดูที่สังคมไทยในบ้านเรากับการอ่านหนังสือที่บอกได้เลยว่ายุคนี้เป็นยุคแห่งความฉาบฉวยซึ่งเมื่อไหร่ก็ตามที่พูดถึงการอ่านคนไทยเรามักจะเบือนหน้าหนีในทันที

แต่ในปัจจุบันนี้เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทที่สำคัญในสังคมไทยการอ่านหนังสือก็ ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องที่ง่ายและใกล้ตัวมากยิ่งขึ้นแต่สิ่งที่สำคัญคือหนังสือที่จะได้รับความนิยมมากเป็นพิเศษก็คือหนังสือประเภทที่สร้างความสนุกสนานบันเทิงเพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าค่านิยมของสังคมไทยและนิสัยคือรักความสนุกสนานเป็นสยามเมืองยิ้มดังนั้นเรื่องราวที่เต็มไปด้วยความตึงเครียดสาระวิชาการเราจึงให้ความสำคัญกันน้อยแต่หันไปให้ความสำคัญกับความสนุกสนานรื่นเริงบันเทิงเสียมากกว่าดังนั้นรูปแบบของหนังสือที่ได้รับความนิยมนอกจากจะต้องเป็นหนังสือที่อัดแน่นไปด้วยความสนุกสนานบันเทิงแล้วยังต้อง เป็นเนื้อหาที่ไม่ยาวมากอีกด้วย

 นอกจากนี้ในปัจจุบัน ยังมีหนังสือออนไลน์เกิดขึ้นในบ้านเราหรือจะบอกว่าเกิดขึ้นกับสังคมทั่วโลกก็เป็นได้เพราะในปัจจุบันนี้เทคโนโลยีทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นแม้กระทั่งหนังสือที่เคยหยิบถือกันเป็นเล่มอย่างถูกรวบรวมเรื่องราวเอาไว้ในโลกออนไลน์ที่เราสามารถเปิดอ่านเมื่อไหร่ก็ได้หรือจะเรียกสิ่งนั้นว่า  E Book  นั่นเอง 

ความสะดวกสบายของการมี ebook ทำให้ในปัจจุบันนี้ เราสามารถเข้าถึงเนื้อหาสาระในหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ได้ง่ายขึ้นและสะดวกสบายมากขึ้นซึ่งในแง่ของการนำไปใช้ประโยชน์ก็มีมากมายหลากหลายรูปแบบด้วยกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการสืบค้นข้อมูลที่อยู่ในหนังสือแต่ละเล่มเราสามารถทำได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้นโดยการพิมพ์คำค้นหาเข้าไปใน search engine ยอดนิยมอย่าง Google เพียงไม่กี่วินาทีเราก็จะได้ข้อมูลที่อยู่บนโลกออนไลน์และเราสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นไปย่อยหรือเรียกว่านำไปใช้ได้ในทันที ซึ่งถือได้ว่าเทคโนโลยีไม่เพียงแต่เข้ามาพัฒนาสังคมเราในเรื่องของการติดต่อสื่อสารเท่านั้นหากแต่พัฒนาไปถึงเรื่องของระบบการจัดการฐานความรู้ซึ่งเป็นความรู้นอกเหนือจากตำราเรียนส่วนที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะนำสิ่งต่างๆเหล่านี้ไปใช้ประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับตัวเองได้มากที่สุดนั่นเอง 

เทคนิคของการอ่านหนังสือ

ชีวิตในวัยเรียน หลายคนคงจะเคยเจอเกี่ยวกับการอ่านหนังสือสอบ หรือว่าหนังสือเรียนต่างๆ ที่เราได้เรียนสมัยเรียน แต่พอคล้อยหลังไม่กี่ปีเท่านั้น ปรากฏว่าสิ่งที่เราเคยเรียนมา มันกลับจำไม่ได้เสียแล้ว บางเรื่องถึงกับต้องมาเสียเวลาอ่านใหม่ หรือว่ามาทำความเข้าใจใหม่ เพราะมันจำไม่ได้เลย นี่เป็นสิ่งที่หลายคนเป็นกัน แม้แต่ตอนที่ทำงานก็เหมือนกัน เวลาเรียนเราก็พอจำได้ แต่พอออกมาทำงาน เรื่องที่เรียนมากลับจำไม่ได้เสียแล้ว

นี่เป็นปัญหาที่หลายคนเป็นกันเยอะ แล้วเราจะทำอย่างไรให้เราสามารถจำ สิ่งที่เราเคยเรียน หรือว่าเคยอ่านมาแล้วโดยที่ไม่มีลืม มีวิธีการอย่างไรบ้าง เราลองมาดูเทคนิคที่จิตแพทย์เขาได้แนะนำมา เป็นเทคนิคที่จะช่วยให้เราเข้าใจเรื่องที่เราอ่านได้ง่ายมากขึ้น เร็วขึ้น และที่สำคัญคือจำโดยไม่มีวันลืมอีกด้วย

วิธีการอ่านที่จะทำให้ไม่มีวันลืม

เมื่อเราอ่านหนังสือแล้ว

สิ่งหนึ่งที่เราควรจะมีติดตัวอยู่ตลอดเวลาคือ สมุดหรับการจดโน้ตสิ่งสำคัญ ที่เราได้จากการอ่านหนังสือ จะช่วยให้เราจำได้ง่ายมากขึ้น และไม่มีวันลืมด้วย โดยใช้วิธีการสรุปเรื่องราที่เราอ่านมาทั้งหมด ว่าเราได้ใจความสำคัญอะไร หรือถ้าจะเป็นหนังสือเรียน ก็ใช้วิธีการไฮไลต์คีย์เวิร์ดสำคัญของเนื้อหา ไมต้องกลัวว่ามันจะเปื้อน หรือว่าสกปรก เวลาที่เรากลับมาอ่าน จะได้ไม่ต้องเสียเวลาอ่านทั้งหมด ให้ดูที่เราทำตำหนิเอาไว้เท่านั้น

สร้างความกดดันให้ตัวเอง

หรือว่าตั้งเป้าหมายให้กับตัวเอง อย่างเช่นเราจะตั้งเป้าว่า วันนี้เราจะอ่านหนังสือเล่มนี้ให้จบ หรือไม่ก็จะอ่านให้ได้กี่บทก็แล้วแต่เรากำหนด แล้วเราก็ทำให้ได้อย่างที่เราต้องการ เมื่อเรารู้ว่าตัวเองจำเป็นจะต้องทำให้มันได้ สมองของเราก็จะมีส่วนที่จะช่วยให้เราจำเนื้อหานั้นได้ง่ายขึ้น และอ่านทุกครั้งที่มีเวลา ไม่ว่าจะเป็นเวลาว่างน้อยนิด อย่างเช่นการนั่งรถไปทำงาน หรือกลับบ้านก็ได้ทั้งสิ้น เป็นการฝึกนิสัยของการรักการอ่านด้วย

ต้องเข้าใจเนื้อหาของหนังสือด้วย

การอ่านที่ดี และมีประสิทธิภาพที่สุด ไม่ได้อยู่เพียงแค่การอ่านเร็วเท่านั้น แต่อยู่ที่การเข้าใจเนื้อหาที่อ่านต่างหาก ฉะนั้นเวลาที่เราอ่านหนังสืออะไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดคือ จะต้องทำความเข้าใจเนื้อหาที่อ่านทั้งหมด หรือพูดง่ายๆ ก็คือให้เน้นที่ประสิทธิภาพของการอ่าน อย่าเน้นที่ปริมาณ

แบ่งเนื้อหาในการอ่าน

การอ่านที่มีประสิทธิภาพคือการแบ่งเวลาอ่าน ไม่จำเป็นที่จะต้องอ่านครั้งเดียวให้หมดทั้งเล่ม ให้แบ่งการอ่านอาจจะเป็นวันละบท หรือวันละ 10-15 นาทีแบบนี้จะทำให้เราจำเนื้อหหาได้ง่ายมากขึ้น และจำได้ยาวนานมากขึ้นด้วย

สำหรับคนที่อ่านอย่างไรก็ไม่เคยจำเนื้อหาได้สักที ลองเอาวิธีการอ่านของจิตแพทย์ท่านนี้ไปลองปฏิบัติตามดู เชื่อว่าต้องดีกว่าเดิมแน่นอน และเรื่องราวเทคนิคการอ่านแบบนี้ ก็ได้รับการตีแผ่เป็นหนังสือด้วย นับว่าเป็นเทคนิคที่มีประโยชน์อย่างมาก โดยเฉพาะนักเรียนนักศึกษา

อ่านหนังสืออย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

วิธีการหาความรู้ที่ง่ายที่สุดอีกวิธีหนึ่งก็คือการอ่าน เพราะเป็นสิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ หาความรู้ได้ด้วยตัวเอง โดยที่ไม่ต้องรอหรือว่าให้ใครมาสอน เรารู้ว่าเราไม่รู้อะไร หรือว่าต้องการจะต้องรู้เกี่ยวกับอะไร เราก็สามารถหยิบหนังสือขึ้นมาอ่านได้ ถ้าไม่อยากจะเสียเงินซื้อ ก็สามารถที่จะไปหายืมตามห้องสมุดมาอ่านได้เช่นกัน และเดี๋ยวนี้ในหนังสือ ก็มีความรู้ทุกอย่างที่เราต้องการอยากจะทราบ เพียงแต่เราจะขวนขวายหามาหรือไม่เท่านั้นเอง

และสำหรับใครที่เวลาอ่านหนังสือที่ไร ก็มักจะมีอาการเบื่อ หรือไม่ก็มักจะไม่เข้าใจ ไม่มีสมาธิในการอ่าน ลองมาดูเทคนิคในการอ่านหนังสือต่อไปนี้ ที่หลายคนเอาไปใช้แล้วได้ผลมากที่สุด คนที่อยากจะเพิ่มประสิทธิภาพการอ่านของตัวเอง น่าจะลองเอาไปใช้ แล้วจะเห็นผลที่แตกต่างจากเดิมแน่นอน มีวิธีไหนบ้างที่น่าสนใจ

-หาบรรยากาศ เราอยากจะอ่านหนังสือได้นาน เราก็ต้องไปคลุกคลีกับคนที่มีนิสัยรักการอ่านเหมือนกัน หรือว่าจะไปอ่านที่ห้องสมุดก็ได้ แล้วเราจะอยากอ่านหนังสือเหมือนคนเหล่านั้น

-ห่างไกลจากสิ่งรบกวน การจะอ่านหนังสือ ให้ได้ผล และเข้าใจมากที่สุดนั้น ที่ที่เราจะอ่าน ควรจะเป็นห้องที่มันมีเสียงเข้ามารบกวน ไม่ว่าจะเป็นเสียงจากคน หรือเสียงจากเครื่องจักรก็ตาม เพราะเมื่อไหร่ที่มันมีเสียงเข้ามารบกวน เราก็อาจจะไม่มีสมาธิในหารอ่านมากเท่าไหร่ และก็จะไม่อยากอ่านด้วย เหมือนที่เราเข้าไปห้องสมุดนั่นแหละ ที่ห้องสมุดเขาจึงงดใช้เสียง เพื่อให้คนที่เข้ามาอ่านหนังสือ ได้มีสมาธิในการอ่านมากขึ้น คนที่อ่านแล้วเบื่อ อ่านได้ไม่นาน ลองเปลี่ยนบรรยากาศการอ่าน ไปหาที่สงบๆ อ่านดูบ้าง เผื่อมันจะช่วยได้ดีขึ้นกว่าเดิม

-กำหนดเป้าหมายในการอ่าน คนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือ แล้วอยากจะเปลี่ยนพฤติกรรมตัวเอง ให้เป็นคนที่มีนิสัยรักการอ่าน ก่อนที่เราจะอ่านหนังสืออะไรก็ตาม เราควรตั้งเป้าหมายของเราเสียก่อน ว่าจะอ่านกี่หน้า อ่านกี่บท หรือว่าอ่านกี่นาที่ ระยะแรกๆ เราก็ไมต้องเอาเยอะมากก็ได้ และเมื่อเราทำตามที่เราตั้งงเป้าเอาไว้ ครั้งต่อไปก็ให้เพิ่มจำนวนการอ่านของเราให้มากขึ้น นานขึ้น และเมื่อนั้นเราจะติดนิสัยรักการอ่านเอง

-โน้ตสั้นๆลงไปด้วย เมื่อเราอ่านหนังสือไปเจออะไรที่มันโดน หรือมันช่วยให้เราจำอะไรในเนื้อหาได้ง่ายมากขึ้น เราก็ควรจะจดบันทึกงในสมุด หรือว่าทำตำหนิ อย่างเช่นไฮไลต์เอาไว้เลย เพื่อที่คราวหลังเราจะได้ไม่ต้องมาเสียเวลานั่งอ่านใหม่ และเมื่อเรารู้ว่าได้อะไรจากการอ่าน เราก็อยากจะอ่านมากขึ้นเรื่อยๆ ลก็จะทำให้เราติดนิสัยรักการอ่านไปโดยปริยาย

เพียงแค่นี้เราก็สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของการอ่านได้แล้ว และเราก็จะสามารถศึกษาหาอ่านอะไรก็ได้ ที่เราต้องการอยากจะรู้ เพราะเรามีเทคนิคการอ่านที่ดีอยู่แล้ว ใครที่ยังใช้วิธีเดิมๆ แล้วัมนไม่ค่อยอจะได้ผล ลองเอาวิธีดังกล่าวไปลองทำดู โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่อยู่ในวัยเรียน ที่ต้องอ่านหนังสือสอบ ถือว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่ง